การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานคืออะไร?
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานสำคัญอย่างไร
องค์ประกอบสำคัญของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
วิธีเทรดโดยใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ข้อดีและข้อเสียของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ตัวอย่างการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจำเป็นต่อการเทรด Forex โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักเทรดระยะยาว ตามประวัติแล้ว นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างคุณ George Soros และ Warren Buffett สร้างความมั่งคั่งด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของตลาด การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานศึกษาว่าเศรษฐกิจของประเทศจะกระทบต่อสกุลเงินของประเทศนั้นอย่างไร โดยตีความรายงานทางสถิติและตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ รายงานและข่าวการเงินหลายร้อยรายการที่เผยแพร่ในแต่ละวันช่วยให้พยากรณ์ว่าค่าเงินจะแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลงในอนาคตและคาดการณ์ว่าแนวโน้มปัจจุบันอาจจะกลับทิศทางเมื่อใด ปฏิทินเศรษฐกิจแสดงวันและเวลาที่มีการเผยแพร่รายงาน ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่นักวิเคราะห์ใช้เพื่อพิจารณาผลกระทบของข่าวที่อาจเกิดขึ้น และยังแสดงการพยากรณ์ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานคือวิธีการใช้ปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อความแข็งแกร่งของสกุลเงิน ประกอบด้วยตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ การจ้างงาน ฯลฯ รวมถึงอำนาจทางการเมืองและสังคม นักเทรดจะพิจารณา 3 องค์ประกอบสำคัญในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่เทรด การวิเคราะห์ประเภทนี้เปรียบได้กับการสืบสวน ช่วยให้นักเทรดยืนยันมูลค่าที่แท้จริงของสกุลเงินโดยการตรวจสอบปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจมีอิทธิพลต่อราคาในอนาคต การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจะช่วยให้นักเทรดระบุได้ว่าสกุลเงินมีราคาสูงเกินไปหรือต่ำเกินไปการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานคืออะไร?
ในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน นักเทรดจะพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียดเพื่อกำหนดมูลค่ายุติธรรมของสกุลเงิน โดยประเมินว่าสกุลเงินมีราคาสูงกว่าหรือต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งประกอบด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติและตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจต่าง ๆ และเข้าใจว่าศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศมีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยนอย่างไร เนื่องจากรายงานและข่าวเศรษฐกิจเผยแพร่ทุกวัน นักเทรดจึงใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้เพื่อคาดการณ์ความผันผวนของค่าเงินและระบุการเปลี่ยนทิศทางของแนวโน้มตลาดที่เป็นไปได้ แหล่งข้อมูลสำคัญคือ ปฏิทินเศรษฐกิจ ซึ่งแสดงวันที่จะเผยแพร่ตัวชี้วัดและรายงานสำคัญ เครื่องมือนี้ช่วยให้นักวิเคราะห์ประเมินผลกระทบของข่าวที่อาจเกิดขึ้นกับค่าเงินและพยากรณ์เพิ่มเติมการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานสำคัญอย่างไร
เรามาสำรวจองค์ประกอบสำคัญของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน โดยเริ่มจาก การวิเคราะห์เศรษฐกิจ การประเมินตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจมหภาคที่มีอิทธิพลต่อภาวะตลาดโดยรวม ปัจจัยสำคัญในการวิเคราะห์เศรษฐกิจ เช่น การวิเคราะห์อุตสาหกรรม การวิเคราะห์อุตสาหกรรมมุ่งเน้นเฉพาะหมวดธุรกิจที่บริษัทดำเนินธุรกิจเท่านั้น ดังนั้น การวิเคราะห์ประเภทนี้จึงเกี่ยวข้องกับนักเทรดหุ้น ซึ่งรวมถึง การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนระบุโอกาสและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับหมวดธุรกิจนั้น การวิเคราะห์บริษัท การวิเคราะห์บริษัทก็เกี่ยวข้องกับนักลงทุนและนักเทรดหุ้น โดยเจาะลึกรายละเอียดของธุรกิจ รวมถึงการตรวจสอบจากองค์ประกอบสำคัญของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
หากคุณอยากเห็นประสิทธิภาพของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน โปรดทำตามขั้นตอนด้านล่างตามลำดับ ขั้นตอนต่อไปคือใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ดูกราฟและแผนภูมิที่แสดงให้เห็นว่าสกุลเงินเป็นอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป การเคลื่อนไหวของราคาและแนวโน้มอาจกำหนดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อหรือขายสกุลเงิน เรียนรู้วิธีใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติมจากบทความการวิเคราะห์ทางเทคนิควิธีเทรดโดยใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
เนื่องจากธนาคารกลางมักรับผิดชอบการจัดการเรื่องการเงินของประเทศ การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายของธนาคารกลางมีผลกระทบต่อค่าเงินอย่างยิ่ง เช่น หากต้องการให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น ธนาคารกลางอาจซื้อและถือสกุลเงินไว้ แต่หากต้องการให้ค่าเงินอ่อนค่าลง ธนาคารกลางจะขายสกุลเงินออกสู่ตลาด เมื่อต้องการให้ผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึ้น ธนาคารกลางอาจลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แก่ธนาคารพาณิชย์ หากต้องการลดเงินเฟ้อ ธนาคารกลางอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดการใช้จ่าย นโยบายของธนาคารกลางแบ่งออกเป็น 'สายเหยี่ยว' หรือ 'สายพิราบ' ขึ้นอยู่กับว่าธนาคารกลางกังวลเงินเฟ้อหรือการเติบโตมากกว่ากัน นโยบายสายเหยี่ยวมักนำไปสู่การขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นโยบายสายพิราบมักส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยกำลังจะลดลงปัจจัยที่ควรพิจารณา
ธนาคารกลางและอัตราดอกเบี้ย
เงินเฟ้อ
ประเมินว่าราคาสินค้าและบริการจะปรับขึ้นเร็วเพียงใด กระทบต่ออุปสงค์และอุปทานของสกุลเงินโดยตรง จึงกระทบต่อค่าเงิน ตัวชี้วัดเงินเฟ้อหลัก เช่น
- ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP)
- GDP คำนวณมูลค่าสินค้าและบริการทั้งหมดที่ผลิตในประเทศในรอบระยะเวลารายงาน ตัวเลข GDP ที่เพิ่มขึ้นส่งสัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งใช้วัดเงินเฟ้อ
- เผยแพร่: 4 สัปดาห์หลังสิ้นสุดไตรมาส (เบื้องต้น) และ 3 เดือนหลังจากสิ้นสุดไตรมาส (ขั้นสุดท้าย) เวลา: 15.30 น. ตามเขตเวลา EET (หรือ 14.30 น. ตามเขตเวลา EEST)
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
- วัดค่าของตะกร้าสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่ประกอบเป็นดัชนี ตัวเลข CPI แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อเปลี่ยนแปลงอย่างไรและได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้ออย่างไรเมื่อเทียบกับตัวเลขก่อนหน้า
- เผยแพร่: ประมาณกลางเดือนของทุกเดือน เวลา: 15.30 น. ตามเขตเวลา EET (หรือ 14.30 น. ตามเขตเวลา EEST)
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)
- แสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ผู้ผลิตได้รับ และผู้ผลิตประเมินได้ว่าอาจกระทบต่อราคาผู้บริโภคอย่างไร
- เผยแพร่: สัปดาห์ที่สองหรือสามของเดือน เวลา: 15.30 น. ตามเขตเวลา EET (หรือ 14.30 น. ตามเขตเวลา EEST)
การจ้างงาน
การจ้างงานกระทบต่อค่าเงินโดยตรง เพราะกระทบต่อการใช้จ่ายในปัจจุบันและอนาคต นักเทรดเชื่อว่าการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจอ่อนแอ อุปสงค์ของสกุลเงินจะลดลง ในทางกลับกัน ตัวเลขการจ้างงานสูงเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโต มักหมายถึงอุปสงค์ของสกุลเงินจะยังคงเพิ่มขึ้น
รายงานการจ้างงานสำคัญที่สุดจากประเทศต่าง ๆ เช่น
- รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ (NFP) การประเมินแนวโน้มการจ้างงาน แต่ไม่รวมองค์กรรัฐ องค์กรไม่แสวงหากำไร และคนงานไร่นา
- รายงานการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่วัดจำนวนผู้ว่างงานใหม่
- การสำรวจภาวะการทำงานของประชากร วัดการเปลี่ยนแปลงของอัตราการว่างงานในแคนาดา
- ดัชนีราคาค่าจ้าง แสดงการเปลี่ยนแปลงของค่าจ้างในออสเตรเลีย
- รายงานจำนวนคนว่างงานที่ใช้สิทธิประโยชน์จากการว่างงาน วัดความเปลี่ยนแปลงของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่ในสหราชอาณาจักรจากรอบระยะเวลารายงานหนึ่งไปยังอีกรอบระยะเวลารายงาน
ยอดขายปลีก
ยอดขายปลีกมีความสำคัญเพราะการใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ ซึ่งวัดมูลค่ายอดขายในกลุ่มสินค้าและบริการต่าง ๆ ในรอบระยะเวลาที่กำหนด การเพิ่มขึ้นของยอดขายปลีกแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีรายได้เพิ่มเติมในการจับจ่าย และเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศ
เผยแพร่: ประมาณกลางเดือนของทุกเดือน เวลา: 15.30 น. ตามเขตเวลา EET (หรือ 14.30 น. ตามเขตเวลา EEST)
ยอดขายบ้าน
การเติบโตของตลาดบ้านเป็นหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่ง รายงานยอดขายบ้าน (อิงจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเป็นหลัก) แสดงให้เห็นอุปสงค์มวลรวมของผู้บริโภคสำหรับการซื้อบ้าน
เผยแพร่: สัปดาห์ที่สี่ของเดือน เวลา: 15.30 น. ตามเขตเวลา EET (หรือ 14.30 น. ตามเขตเวลา EEST)
รายงานยอดขายส่ง
อ้างอิงจากการสำรวจผู้ขายส่ง 4,500 รายในแต่ละเดือน ซึ่งประกอบสถิติอย่างยอดขายรายเดือน สินค้าคงคลัง และอัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อยอดขาย รายงานฉบับนี้แสดงความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานและอาจช่วยให้พยากรณ์รายงาน GDP ประจำไตรมาส อย่างไรก็ตาม รายงานยอดขายส่งไม่ได้มีผลต่อตลาดมากนัก
เผยแพร่: ในหรือประมาณวันที่ 9 ของเดือน เวลา: 17.00 น. ตามเขตเวลา EET (หรือ 16.00 น. ตามเขตเวลา EEST)
ดุลการชำระเงิน (BOP)
ดุลการชำระเงินสรุปธุรกรรมทั้งหมดระหว่างผู้มีถิ่นฐานในประเทศกับผู้มีถิ่นฐานในต่างประเทศในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยแบ่งออกเป็นดุลบัญชีเดินสะพัดที่รวมสินค้า บริการ และรายได้ และดุลบัญชีเงินทุนที่ประกอบด้วยธุรกรรมในเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งจำเป็นต่อการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจระดับประเทศและระหว่างประเทศ
เผยแพร่: ประมาณวันที่ 19 ของเดือน เวลา: 15.30 น. ตามเขตเวลา EET (หรือ 14.30 น. ตามเขตเวลา EEST)
ดุลการค้า
แสดงผลต่างระหว่างมูลค่าสินค้าออกและมูลค่าสินค้าเข้าของประเทศ และเป็นส่วนสำคัญของดุลการชำระเงิน การขาดดุลการค้าหมายถึงประเทศนำเข้าสินค้ามากกว่าส่งออก ขณะที่การเกินดุลการค้าหมายถึงประเทศนำเข้าสินค้าน้อยกว่าส่งออก การขาดดุลหรือการเกินดุลการค้ามักเป็นสัญญาณอุปสงค์ของสกุลเงินที่เพิ่มขึ้น
เผยแพร่: ประมาณวันที่ 19 ของเดือน เวลา: 15.30 น. ตามเขตเวลา EET (หรือ 14.30 น. ตามเขตเวลา EEST)
เรียนรู้เพิ่มเติมว่าตลาด Forex ทำงานอย่างไรในบทความนี้
Fundamental analysis has several advantages. However, fundamental analysis has several significant disadvantages.Advantages and disadvantages of fundamental analysis
เรามาดูที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งวัดว่าราคาสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ตัวอย่างเช่น ตัวเลข CPI ก่อนหน้าคือ 2.4% ซึ่งบ่งบอกเงินเฟ้อปานกลาง การเผยแพร่ข้อมูลใหม่ของ CPI มีความสำคัญเพราะอาจกระทบต่อค่าเงินเทียบกับดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ หากตัวเลข CPI สูงกว่าตัวเลขก่อนหน้า (สูงกว่า 2.4%) บ่งบอกว่าดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง (DXY) ซึ่งบอกเป็นนัยว่าคู่สกุลเงินที่มีสกุลอ้างอิงเป็น USD (EURUSD) ควรแข็งค่าขึ้น (ซื้อ) ในทำนองเดียวกัน คู่สกุลเงินที่มีสกุลเงินฐานเป็น USD ควรอ่อนค่าลง (ขาย) เช่น USDCHFตัวอย่างการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ข้อสรุป